"สัตว์ที่พบในทวีปอเมริกาเหนือ"(ต่อ)
1. แอลลิเกเตอร์ หรือ จระเข้ตีนเป็ด (อังกฤษ: Alligator; เรียกสั้น ๆ ว่า เกเตอร์: Gator) เป็นสกุลของสัตว์เลื้อยคลานในอันดับจระเข้ (Crocodilia) ในวงศ์ Alligatoridae ใช้ชื่อสกุลว่า Alligator
แอลลิเกเตอร์เป็นจระเข้ที่อยู่ในวงศ์ Alligatoridae ซึ่งแยกมาจากจระเข้ทั่วไปส่วนใหญ่ที่จะอยู่ในวงศ์ Crocodylidae ซึ่งแยกออกมาจากกันราว 200 ล้านปีก่อน ในมหายุคมีโซโซอิก และไม่เปลี่ยนแปลงรูปร่าง แอลลิเกเตอร์จึงจัดเป็นซากดึกดำบรรพ์มีชีวิตจำพวกหนึ่ง [1][2]
แอลลิเกเตอร์ มีลักษณะที่แตกต่างไปจากจระเข้ในวงศ์ Crocodylidae หรือจระเข้ทั่วไป คือ เมื่อมองจากด้านบนจะเห็นจะงอยปากสั้นและเป็นรูปตัวยู รูจมูกมีขนาดใหญ่ และเมื่อหุบปากแล้วฟันล่างจะไม่โผล่ออกมาให้เห็น เพราะมีส่วปลายของหัวแผ่กว้างและขากรรไกรยาว ส่วนปลายของขากรรไกรล่างซ้ายและขวาเชื่อมต่อกันเป็นพื้นที่แคบ กระดูกแอนโทพเทอรีกอยด์อยู่ห่างจากแถวของฟันที่กระดูกแมคซิลลาเป็นช่องกว้าง กระดูกพาลาทีนมีก้านกระดูกชิ้นยาวอยู่ทางด้านหน้าและยื่นเลยช่องในเบ้าตา พื้นผิวด้านบนของลิ่นมีสารเคอราติน ไม่มีต่อมขจัดเกลือบนลิ้น[3]
ปัจจุบัน แอลลิเกเตอร์ มีอยู่ 2 ชนิดเท่านั้น คือ แอลลิเกเตอร์อเมริกัน (Alligator mississippiensis) ซึ่งถือเป็นสัตว์จำพวกจระเข้ที่ใหญ่ที่สุดที่พบได้ในทวีปอเมริกาเหนือ และแอลลิเกเตอร์จีน (A. sinensis) ที่พบในลุ่มแม่น้ำแยงซีในประเทศจีนเท่านั้น และเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์มากแล้ว[4]
ซึ่งคำว่า แอลลิเกเตอร์นั้น มาจากภาษาสเปนคำว่า "Lagarto" หมายถึง "สัตว์เลื้อยคลาน
2. แรคคูน (อังกฤษ: Raccoon, Common raccoon) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมชนิดหนึ่ง ในอันดับสัตว์กินเนื้อ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Procyon lotor อยู่ในวงศ์แรคคูน (Procyonidae)
มีความยาวลำตัวราว 2 ฟุต มีหางเป็นพวงมีแถบสีดำคาดเป็นปล้อง ๆ ยาวราว 10 นิ้ว ขนตามลำตัวสีน้ำตาลปนเทา ใบหน้าสีขาวมีแถบสีดำคาดจากตาไปเป็นแถบตลอดแก้ม แลดูคล้ายเหมือนโจรสวมหน้ากาก
เป็นสัตว์ที่กระจายพันธุ์ไปทั่วในทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกากลางในหลายพื้นที่ ทั้งในป่า หรือแม้แต่ชุมชนของมนุษย์ เป็นสัตว์ที่สามารถปรับตัวได้เป็นอย่างดี กินอาหารได้หลากหลายประเภททั้งเนื้อสัตว์และพืช อีกทั้งยังชอบที่จะอยู่ใกล้พื้นที่ชุ่มน้ำด้วยการจับสัตว์น้ำกินเป็นอาหาร เช่น กบ, ปลา, กุ้ง และปู หรือเต่าขนาดเล็กเป็นอาหาร รวมทั้งนกหรือแมลงปีกแข็งขนาดเล็กกินเป็นอาหารได้ด้วย แต่ไม่สามารถที่จะว่ายน้ำได้ จะใช้วิธีการจับในน้ำตื้น ๆ ที่ขาหยั่งถึงแทน ในช่วงฤดูแล้งที่อาหารขนาดแคลนก็จะกินลูกไม้, ผลไม้ และดอกข้าวโพด เป็นอาหาร หรืออาจจะบุกเข้าไปในบ้านเรือนของมนุษย์ ขุดคุ้ยหาขยะหรือเศษอาหาร หรือแม้กระทั่งเปิดตู้เย็นหากิน
_1.jpg)
แรคคูน เป็นสัตว์ที่ปีนต้นไม้เก่ง ทำรังอยู่บนยอดไม้และใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนต้นไม้ ในเวลากลางวันจะนอนขดอยู่ตามพงไม้ หรือซอกหิน หรือนอนผึ่งแดดอยู่ในรัง ในตอนกลางคืนจะออกหากิน โดยใช้เส้นทางเดิม และมักจะใช้เส้นทางที่เป็นพื้นแข็ง เพื่อไม่ให้เกิดรอยเท้า
ตัวเมียออกลูกครั้งละ 4-6 ตัว ในโพรงไม้ ในช่วงฤดูหนาวที่หิมะตกและอาหารขาดแคลน แรคคูนจะใช้เวลาช่วงนี้ในการจำศีลตลอดฤดูกาล
แรคคูน เป็นสัตว์ที่มีความน่ารัก จึงมีผู้นำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง อีกทั้งขนและหนังมีความหนานุ่มและสีสวย จึงมีการล่าเพื่อทำเป็นเสื้อขนสัตว์ด้วย
เป็นนกขนาดใหญ่ มีจุดเด่น คือ ขนส่วนหัวจนถึงลำคอเป็นสีขาว ตัดกับสีขนลำตัวและปีกซึ่งเป็นสีดำ และปลายหางสีขาว ขณะที่กรงเล็บ รวมทั้งจะงอยปากเป็นสีเหลือง
มีขนาดโตเต็มที่ประมาณ 70-102 เซนติเมตร (28-40 นิ้ว) ความยาวปีกเมื่อกางปีก 1.8-2.3 เมตร (5.9-7.5 ฟุต) และมีน้ำหนักประมาณ 2.5 ถึง 7 กิโลกรัม (9-12 ปอนด์) ขณะที่ตัวเมียจะมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้ประมาณร้อยละ 25 สามารถบินได้เร็วประมาณ 48 กิโลเมตร/ชั่วโมง และมีสายตาที่สามารถมองได้ไกลประมาณ 1 ไมล์ (1.6 กิโลเมตร)
จัดเป็นนกที่มีความสวยงามและสง่างามมากชนิดหนึ่ง มีถิ่นกระจายพันธุ์ในทวีปอเมริกาเหนือตลอดไปจนถึงเม็กซิโกตอนเหนือ และทะเลแคริบเบียน มักอาศัยอยู่ใกล้แหล่งน้ำหรือชายทะเล เพราะกินปลาเป็นอาหารหลัก
มีอายุขัยโดยเฉลี่ยประมาณ 25-30 ปี ในขณะที่ยังเป็นนกวัยอ่อนจนถึง 5 ขวบ ขนบริเวณหัวและปลายหางจะยังเป็นสีน้ำตาล ไม่เปลี่ยนไปเป็นสีขาว
นกอินทรีหัวขาวถือเป็นสัญลักษณ์ของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยปรากฏในตราประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และอีกหลายหน่วยงานราชการในประเทศ
มีจุดเด่นอยู่ที่ตรงหัวขนาดใหญ่ที่มีเขาที่ดั้งจมูกเหมือนกับนอแรดอันเป็นที่มาของชื่อเรียก มีลำตัวที่มีขนาดใหญ่ หนา บึกบึน ลำตัวมีสีน้ำตาล หรือสีเขียวมะกอกหรือสีดำ ขณะที่บางตัวมีส่วนหางสีฟ้า ในตอนเล็กจะมีสีเทาอมฟ้าแซมตลอดทั้งตัว ในตัวผู้จะมีสีสันบริเวณกล้ามเนื้อที่หลังคอหนามาก และมีกล้ามเนื้อบริเวณกรามที่ใหญ่มากจนปูดออกมาบริเวณหัวอย่างชัดเจน ภายในปากเป็นสีม่วงดำสำหรับใช้ขู่ โดยการขู่จะใช้วิธีอ้าปากขู่และงับกรามลงแรง ๆ
จัดเป็นอีกัวนาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสกุล Cyclura ด้วยมีความยาวที่สุดได้ถึง 1.5 เมตร และมีน้ำหนักได้ถึง 15 กิโลกรัม กระจายพันธุ์อยู่ที่ ๆ แห้งแล้ง แถบเกาะฮิสปันโยลา, หมู่เกาะแคริเบียน, สาธารณรัฐเฮติ และโดมินิกา
มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ชนิดย่อย ซึ่งสูญพันธุ์ไปแล้วหนึ่งชนิด และอยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งหนึ่งชนิด เป็นอีกัวนาที่กินได้ทั้งพืชและสัตว์ขนาดเล็ก หรือ ไข่นก เป็นอาหารได้ แต่จะกินพืชเป็นหลัก
เป็นสัตว์เลื้อยคลานที่เป็นที่นิยมเลี้ยงสำหรับผู้ที่นิยมเลี้ยงสัตว์แปลก ๆ แต่ว่าเป็นอีก้วนาที่มีนิสัยก้าวร้าว ไม่ค่อยจะเชื่องและอาจกัดทำร้ายผู้เลี้ยงได้ โดยขณะที่สถานะการอนุรักษ์ในธรรมชาติ อีกัวนาแรด มีศัตรูตามธรรมชาติ คือ พังพอน, สุนัข, แมว และก็หนู ที่จะทำลายและกัดกินไข่และรัง แต่ปัจจุบันได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายที่เข้มงวด และการได้รับการเอาใจใส่จากผู้คนในท้องถิ่น ประกอบกับการสามารถเพาะขยายพันธุ์ในที่เลี้ยงได้แล้ว ทำให้มีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น